เม.ย. 2568

ประกันบำนาญสำหรับวัยเกษียณ วางแผนเกษียณอย่างไรให้มีเงินใช้ทุกปี

ประกันบำนาญ เป็นการวางแผนทางการเงินเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวัยเกษียณ เป็นหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณมีเงินใช้ในช่วงหลังเกษียณหรือในช่วงเวลาที่ไม่มีรายได้ประจำเพื่อไม่เป็นภาระของใคร โดยผู้เอาประกันจะต้องชำระเบี้ยประกันตามระยะเวลาที่กำหนด และเมื่อถึงอายุที่กำหนดไว้ ทางบริษัทประกันจะทำการจ่ายเงินบำนาญให้กับผู้เอาประกันเป็นรายปีหรือรายเดือน แต่ทราบไหมว่าควรวางแผนเกษียณอย่างไรให้มีเงินใช้ทุกปี เรามีมาบอกกัน
บทความนี้.. มีอะไรบ้าง

การวางแผนเกษียณในปัจจุบัน ควรมีเงินเท่าไหร่ดี

การวางแผนเกษียณด้วยประกันบำนาญเป็นทางเลือกที่คนให้ความสนใจในปัจจุบัน เพราะช่วยลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในอนาคต ช่วยให้มีรายได้อย่างสม่ำเสมอในช่วงหลังเกษียณ แต่จะทราบได้อย่างไรว่าควรวางแผนทางการเงินสำหรับเกษียณเท่าไหร่ถึงจะพอใช้ เพราะแต่ละคนก็มีปัจจัยการใช้เงินที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน หนี้สิน ปัญหาสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ และเพื่อช่วยให้คุณวางแผนได้ง่ายขึ้น เรามีวิธีดี ๆ มาบอกกัน


  1. กำหนดเป้าหมายทางการเงินหลังเกษียณ ประเมินค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ คำนวณค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือน เช่น ค่าครองชีพ ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อให้ทราบรายรับและรายจ่าย
  2. กำหนดช่วงการเกษียณ หรือช่วงที่คาดว่าจะใช้ชีวิตหลังเกษียณ เช่น หากเกษียณที่อายุ 60 ปี และคาดว่าจะมีอายุถึง 85 ปี จะต้องมีเงินที่เพียงพอสำหรับ 25 ปี
  3. คำนวณจำนวนเงินที่ต้องการหลังเกษียณในแต่ละเดือน โดยนำค่าใช้จ่ายรายเดือนมาคูณกับจำนวนเดือนในช่วงเวลาหลังเกษียณ เช่น หากค่าใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท และต้องการเงินสำหรับการใช้ชีวิตใน 25 ปี หรือประมาณ 300 เดือน จะต้องมีเงินทั้งหมด 6,000,000 บาท
  4. พิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อ ค่าใช้จ่ายในอนาคตอาจเพิ่มขึ้นจากเงินเฟ้อ ทำให้สินค้าต่าง ๆ มีราคาที่สูงขึ้น ควรเผื่อค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไว้เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตด้วย
  5. เริ่มออมเงินตั้งแต่วันนี้ เพราะยิ่งเริ่มออมเงินเร็วเท่าไร ก็ยิ่งมีเวลาในการสะสมเงินมากขึ้น
  6. ซื้อประกันบำนาญเพื่อช่วยวางแผนการเงิน เพราะเป็นประกันชีวิตที่มุ่งเน้นการออมเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณ เพื่อให้มั่นใจว่าเกษียณไปแล้วจะมีเงินใช้
  7. ปรับแผนการเงินตามสถานการณ์ ติดตามข่าวสารและอัปเดตแผนการเงินอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
  8. ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ หากไม่มั่นใจในการวางแผน สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือตัวแทนบริษัทประกันชีวิตได้


วางแผนเกษียณล่วงหน้าด้วยประกันบำนาญ จ่ายเบี้ยครั้งเดียว ไม่เป็นภาระ

การวางแผนเกษียณอายุเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงินและช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ วันนี้จึงจะมาแนะนำโครงการเมืองไทย Easy Retire จากเมืองไทยประกันชีวิต เพราะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนในอนาคต


จุดเด่นของประกันบำนาญโครงการเมืองไทย Easy Retire

  1. จ่ายเบี้ยครั้งเดียว ไม่เป็นภาระของลูกหลาน ระยะเวลาชำระเบี้ยเพียง 1 ปี หรือชำระเบี้ยครั้งเดียว
  2. การันตีมีเงินบำนาญใช้ทุกปี รับเงินบำนาญต่อเนื่องเมื่ออายุครบ 65 - 99 ปี ทุกปี ณ วันครบรอบปี
  3. กรมธรรม์ ปีละ 12%(1) รับบำนาญรวมตลอดอายุสัญญา สูงสุด 420%(1)
  4. มอบความคุ้มครองชีวิต นอกจากการออมเงินเพื่อการเกษียณแล้ว เมืองไทย Easy Retire ยังมอบความคุ้มครองชีวิตให้กับผู้เอาประกัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าครอบครัวจะได้รับการดูแลทางการเงินในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน หากผู้เอาประกันเสียชีวิตก่อนรับเงินบำนาญ ครอบครัวหรือผู้รับประโยชน์จะได้รับเงินประกันตามจำนวนที่กำหนดในกรมธรรม์ แต่หากผู้เอาประกันเสียชีวิตหลังรับเงินบำนาญแล้ว ผู้รับประโยชน์จะได้รับผลประโยชน์เท่ากับเบี้ยประกันภัยชำระครั้งเดียวที่ผู้เอาประกันภัยได้ชำระไว้แล้ว หักด้วยเงินบำนาญสะสมที่ผู้เอาประกันภัยได้รับไปแล้ว
  5. สมัครได้ตั้งแต่อายุ 21 - 60 ปี
  6. ไม่ต้องตรวจสุขภาพ
  7. สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร


ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต

  1. กรณีที่เสียชีวิตก่อนรับเงินบำนาญ หรือในช่วงก่อนวันครบรอบปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยมีอายุครบ 65 ปี บริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินให้กับผู้รับผลประโยชน์ 110% ของเบี้ยประกันภัยชำระครั้งเดียวหรือเงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ประกันภัยในขณะนั้น
  2. กรณีที่เสียชีวิตหลังรับเงินบำนาญ บริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินให้กับผู้รับผลประโยชน์เท่ากับเบี้ยประกันภัยชำระครั้งเดียวที่ผู้เอาประกันภัยได้ชำระไว้แล้ว แต่จะมีการหักเงินบำนาญสะสมที่ผู้เอาประกันภัยได้รับไปแล้วก่อนหน้า


รู้หรือไม่ ประกันบำนาญลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท

ข้อดีของการทำประกันบำนาญคือสามารถนำเบี้ยประกันที่ชำระไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ ตามประกาศของกรมสรรพากร สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของรายได้สุทธิ แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปแล้ว จะสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี


ประกันบำนาญลดหย่อนภาษีกับเงื่อนไขที่ควรรู้

  1. ระยะเวลาชำระเบี้ยประกัน ควรชำระเบี้ยประกันตามระยะเวลาที่กำหนดในกรมธรรม์ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ระบุไว้
  2. การรวมเบี้ยประกันชีวิตและบำนาญ เมื่อรวมเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปและเบี้ยประกันบำนาญแล้ว จะต้องไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี เพื่อให้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวน
  3. การยื่นเอกสาร ควรเก็บรักษาเอกสารการชำระเบี้ยประกันและเอกสารที่เกี่ยวข้องเอาไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นภาษี


การวางแผนเกษียณเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การเลือกประกันบำนาญจึงถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการเกษียณอย่างมั่นคงและความคุ้มครองชีวิตที่ครอบคลุม เพราะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะมีรายได้ประจำหลังเกษียณโดยไม่เป็นภาระของใคร นอกจากนี้ยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ด้วยการนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด เริ่มต้นวางแผนอนาคตตั้งแต่วันนี้เพื่อความมั่นคงทางการเงินและความสบายใจในการใช้ชีวิตช่วงวัยเกษียณ


หมายเหตุ

(1) ผลประโยชน์เงินบำนาญเป็น % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มสัญญา โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินบำนาญ เมื่อครบอายุ 65-99 ปี ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์


  1. โครงการเมืองไทย Easy Retire เป็นชื่อทางการตลาด ของแบบประกันภัย เมืองไทย 9901 D65 (บำนาญแบบลดหย่อนได้)
  2. การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
  3. เป็นการออมเงินในรูปแบบการประกันชีวิต
  4. เบี้ยประกันภัยของโครงการนี้ สามารถ นำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ ทั้งนี้หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด
  5. โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

เลือกประเภทประกัน ที่คุณสนใจ