ประกันออมทรัพย์มีกี่ระยะ กี่แบบ แต่ละแบบต่างกันอย่างไร
ประกันออมทรัพย์ คือประกันชีวิตที่เน้นการออมเงิน โดยมีทั้งแบบระยะเวลาคุ้มครองสั้น ตั้งแต่ 3-5 ปี, ระยะเวลาคุ้มครองกลาง 6-10 ปี และระยะคุ้มครองยาว ตั้งแต่ 11 ปีขึ้นไป
โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินคืนใน 2 รูปแบบ ขึ้นกับแบบประกันภัย ได้แก่
- แบบได้เงินคืนระหว่างสัญญา คือประกันออมทรัพย์ที่มีการจ่ายเงินคืนให้กับผู้เอาประกันในระหว่างที่สัญญายังมีผลบังคับใช้อยู่ การคืนเงินอาจเป็นรายปีหรือรายงวดตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ เพื่อช่วยให้ผู้เอาประกันมีสภาพคล่องทางการเงินในระหว่างสัญญา และเมื่อครบอายุสัญญาผู้เอาประกันจะได้รับเงินก้อนสุดท้ายตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- แบบคืนเงินก้อนเมื่อครบสัญญา ผู้เอาประกันจะไม่ได้รับเงินคืนระหว่างสัญญา แต่จะได้รับเงินก้อนเมื่อครบอายุสัญญา ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินเพื่อเป้าหมายในอนาคต เช่น การวางแผนการเงินระยะยาว
จุดเด่นของประกันออมทรัพย์
- การันตีเงินเป้าหมายการออมที่แน่นอน
- คุ้มครองชีวิตควบคู่กับการออม
- เลือกระยะเวลาการออมได้
- ช่วยสร้างวินัยในการออม
- ช่วยวางแผนอนาคต
- ความเสี่ยงต่ำ
- สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
ประกันออมทรัพย์ นานแค่ไหนถึงจะได้รับเงินคืน?
ระยะเวลาที่ผู้เอาประกันจะได้รับเงินคืนขึ้นอยู่กับประเภทของประกันออมทรัพย์ที่เลือก แต่ละแผนประกันอาจมีระยะที่ต่างกัน โดยระยะสั้นจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายออมเงินในระยะเวลาสั้น ๆ 2-3 ปี เช่น เมืองไทย ได้ใจ 3/2 ออมสั้น 2 ปี เมื่อครบปีที่ 3 ได้รับเงินคืน มอบความคุ้มครองชีวิต 3 ปี ผลประโยชน์รวม 200% (1) ส่วนระยะยาวจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินหรือการลงทุนในระยะยาว
แนะนำประกันออมทรัพย์จ่ายเบี้ยสั้น มีเงินคืนทุกปี ลดหย่อนภาษีได้
สำหรับคนที่สนใจประกันออมทรัพย์ระยะสั้นขอแนะนำ โครงการออมจุใจ 10/3 จากเมืองไทยประกันชีวิต เพราะเป็นการวางแผนการออมที่จ่ายเบี้ยสั้น มีระยะเวลาการชำระเบี้ยเพียง 3 ปี แต่ระยะเวลาการเอาประกันภัยนาน 10 ปี มีเงินคืนทุกปี เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินอย่างมีประสิทธิภาพและวางแผนการเงินในอนาคต มอบความคุ้มครองชีวิตและให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
จุดเด่นของโครงการออมจุใจ 10/3
- ออมสั้นเพียง 3 ปี แต่ผลประโยชน์รวมสูงสุดถึง 333%(1) ชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 3 ปี และรับเงินก้อนคืนสิ้นปีที่ 10(2)
- คุ้มครองชีวิตนาน 10 ปี สูงสุด 303%(3)
- ได้รับเงินคืนทุกปี 1%(1) ของจำนวนเงินเอาประกันภัยตั้งแต่ปีที่ 1-9
- สิทธิลดหย่อนภาษี 3 ปีเต็ม ลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
- ไม่ต้องตรวจสุขภาพและไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ(4)
- สมัครได้ตั้งแต่อายุ 20 - 80 ปี
- ซื้อออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โครงการออมจุใจ 10/3 เหมาะสำหรับใคร
- ผู้ที่ต้องการออมเงินระยะสั้นแต่ได้รับผลตอบแทนระยะยาว ชำระเบี้ยเพียง 3 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองและผลประโยชน์นาน 10 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการออมอย่างมีประสิทธิภาพ
- ผู้ที่ต้องการได้รับประโยชน์ทางภาษี สำหรับผู้ที่มีรายได้และต้องการลดหย่อนภาษี โครงการออมจุใจ 10/3 ถือเป็นทางเลือกที่ดี ช่วยให้คุณได้วางแผนการออมเงินและรับเงินภาษีคืนได้
- ผู้ที่ต้องการความมั่นคงทางการเงิน เป็นการออมเงินที่มีความมั่นคง การันตีรับเงินคืน ช่วยให้มั่นใจว่าจะได้รับเงินก้อนกลับคืนมาใช้ประโยชน์ในระยะเวลาสั้น ๆ
- ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองชีวิต นอกจากการออมเงินแล้วโครงการออมจุใจ 10/3 ยังให้ความคุ้มครองชีวิตด้วย เป็นการสร้างความมั่นคงให้กับตนเองและครอบครัวในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
ประกันออมทรัพย์ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดเท่าไหร่ ทำไมถึงเป็นที่นิยม
ประกันออมทรัพย์สามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ โดยผู้เอาประกันสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุดถึง 100,000 บาทต่อปี ทำให้เป็นประกันชีวิตที่หลายคนเลือกทำเพราะมีประโยชน์ได้หลายด้าน
- ใช้ลดหย่อนภาษีได้ เนื่องจากคนรุ่นใหม่หรือวัยทำงานมีอาชีพที่หลากหลาย ทั้งงานประจำและงานอิสระ การเสียภาษีจึงถือเป็นความรับผิดชอบของทุกคน การทำประกันออมทรัพย์ลดหย่อนภาษีจึงถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะช่วยให้มีเงินออม และใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด100,000 บาทต่อปี ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบของประกันชีวิตแบบออมทรัพย์เลยก็ว่าได้
- การันตีผลตอบแทนที่แน่นอน ประกันออมทรัพย์มักมีการการันตีผลตอบแทนที่แน่นอน ทำให้ผู้เอาประกันมั่นใจได้ว่าจะได้รับเงินคืนตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดจะมีความผันผวนก็ตาม
- มอบความคุ้มครองชีวิตตลอดอายุสัญญา นอกจากการออมเงินแล้วยังมอบความคุ้มครองชีวิตตลอดอายุสัญญา เป็นข้อดีสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างหลักประกันให้กับครอบครัวในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิด
- สร้างวินัยในการออมเงิน การทำประกันออมทรัพย์เป็นการสร้างวินัยการออมเงินที่ดี สามารถเริ่มได้จากการออมเงินในระยะสั้นไปจนถึงระยะยาว เนื่องจากผู้เอาประกันต้องชำระเบี้ยประกันตามระยะเวลาที่กำหนด ทำให้มีการเก็บสะสมเงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่ดีในการวางแผนการเงินส่วนบุคคล
- ได้รับผลประโยชน์เพิ่มเติม บริษัทประกันชีวิตต่าง ๆ มักมีการเสนอสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมให้กับผู้เอาประกันแบบออมทรัพย์ เช่น การคืนเงินระหว่างสัญญา หรือโบนัสเมื่อครบกำหนดสัญญา
การทำประกันออมทรัพย์ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างวินัยในการออมเงินและมอบความคุ้มครองชีวิต แต่ยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษี สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินระยะสั้น ๆ หรือในระยะยาว สามารถเลือกระยะเวลาการชำระเบี้ยได้ มีตั้งแต่จ่ายเบี้ยระยะสั้น 3 ปี ไปจนถึงระยะกลางที่ 5 ปี หากสนใจสามารถเข้าไปเลือกแผนประกันที่ต้องการได้ สมัครง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง
หมายเหตุ
(1) เป็น % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย
(2) กรณีมีชีวิตอยู่ครบสัญญาจะได้รับผลประโยชน์เท่ากับ 324% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือ 101% ของจำนวนเงินเบี้ยประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยได้ชำระไว้แล้ว (แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่า)
(3) ความคุ้มครองชีวิตเท่ากับ % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือเงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ประกันภัยในขณะนั้น หรือ 101% ของจำนวนเงินเบี้ยประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยได้ชำระไว้แล้ว (แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่า)
(4) การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- โครงการ ออมจุใจ 10/3 เป็นชื่อทางการตลาด ของแบบประกันภัย ออมจุใจ 10/3
- เป็นการออมเงินในรูปแบบการประกันชีวิต
- เบี้ยประกันภัยของโครงการนี้ สามารถ นำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ ทั้งนี้หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย